สำหรับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนคงเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในแต่ละปีนั้นจะต้องทำการเสียค่าภาษีรถยนต์และต่อประกันภัย พรบ ซึ่งกฎหมายบังคับให้รถทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกต้องมีไว้เพื่อคุ้มครองค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่บาดเจ็บและค่าปลงศพในกรณีที่เสียชีวิตให้แก่ผู้ประสบภัย ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงคนเดินเท้า ซึ่งราคา พรบ รถบรรทุก หรือรถกระบะที่มีน้ำหนักไม่เกิน 3 ตัน นั้น มีราคาอยู่ที่ 900 บาท
โดยปัจจุบันการต่อ พรบ นับว่ามีความสะดวกกว่าเมื่อก่อนอย่างมาก เนื่องจากไม่ต้องเดินทางไปที่ขนส่งอีกต่อไปนี้ วันนี้เราจึงมาบอกต่อกันว่า แหล่งต่อพรบ รถบรรทุก และรถยนต์มีที่ไหนที่สามารถทำได้อีกบ้าง?
ไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศไทย
ชีวิตง่ายและสะดวกขึ้นอีกเยอะเพราะตอนนี้ทุกคนสามารถต่อ พรบ รถบรรทุก ที่ไปรษณีย์ทุกแห่งใกล้บ้านได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดินทางไปขนส่งอีกต่อไป เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่เขตไหนก็ไปที่ไปรษณีย์เขตนั้นๆ หรือข้ามเขตก็ได้เช่นเดียวกัน ที่สำคัญคือนอกจากรถบรรทุกแล้ว รถยนต์ส่วนตัว รถจักรยานยนต์ รถแทรกเตอร์ รถพ่วง หรือรถบดถนน ก็สามารถต่อ พรบ ที่นี่ได้เช่นกัน
ต่อ พรบ ผ่านช่องทางออนไลน์
วิธีนี้นับว่าสะดวกสุดๆ และตอบโจทย์อย่างมากสำหรับคนในยุคปัจจุบัน เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เวลาใด ก็สามารถต่อ พรบ รถบรรทุก ได้ที่เว็บไซต์กรมการขนส่ง เพียงเข้าไปที่ ttps://eservice.dlt.go.th/esvapp/login.jsf แล้วคลิกเลือกลงทะเบียนสมาชิกใหม่ จากนั้นเลือกบริการชำระภาษีรถประจำปี จากนั้นทำตามขั้นตอนที่ปรากฎบนเว็บไซต์ เมื่อเสร็จแล้วก็สามารถรอรับเล่ม พ.ร.บ. ที่บ้านแบบง่ายๆ ได้เลย
เคาน์เตอร์เซอร์วิสทุกสาขา
นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับการต่อ พรบ รถบรรทุก ที่หลายคนอาจยังไม่รู้และมองข้ามไป แต่ช่องทางนี้นับว่าสะดวกสุดๆ เพราะแค่เดินไปร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ก็สามารถทำเรื่องต่อ พรบ ได้เลย เพียงใช้แค่บัตรประชาชนและสำเนาเล่มทะเบียนเท่านั้น โดยสามารถต่อ พรบ ได้หมดไม่ว่าจะเป็นรถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนตัว รถบรรทุกหรือรถกระบะ และรถตู้ ที่สำคัญคือซื้อแล้วสามารถรอรับได้ทันทีด้วย
นับว่าสะดวกสุดๆ ไปเลยกับช่องทางต่อ พรบ รถบรรทุก ที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อนว่า จริงๆ แล้วไม่ต้องเดินทางไปต่อ พรบ ที่ขนส่งอีกต่อไป โดยเอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อม คือ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาทะเบียนบ้านรถหรือเล่มจริง ทั้งนี้ การต่อ พรบ รถยนต์นั้นนับว่ามีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นหน้าที่ของเจ้าของรถยนต์ที่ต้องรับผิดชอบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจขึ้นได้ตลอดเวลาโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ทั้งต่อตัวเราเอง รวมถึงคู่กรณีด้วย หากใครยังไม่ได้ไปต่อ พรบ รถยนต์ ต้องรีบหาเวลาไปต่อเลย
