สมุนไพรอบเชย ช่วยลดน้ำตาล ช่วยรักษาโรคเบาหวาน ทุกวันนี้เรามักพบว่าคนรอบๆข้างเราป่วยเป็นโรคเบาหวานมากขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุหลักๆของโรคมาจากพันธุกรรมและการรับประทานอาหาร เราจะสังเกตได้ว่าทุกวันนี้ อาหารที่เรารับประทานมักจะมีรสชาติหวาน แม้แต่กับข้าวที่เป็นแกงไทยๆ อย่างแกงเผ็ด ต้มยำ ก็ล้วนแต่มีรสหวานนำ แตกต่างจากสมัยก่อนที่นิยมใสน้ำตาลเพียงเล็กน้อยเพื่อตัดรสชาติเท่านั้นเอง รวมทั้งขนม นม น้ำอัดลม เครื่องดื่มต่างๆที่บริโภคกันทุกวันนี้ก็ล้วนแล้วมีปริมาณน้ำตาลมากจนน่าตกใจ พฤติกรรมการับประทานเช่นนี้ส่งผลให้เราเริ่มสะสมน้ำตาลกันมาตั้งแต่เล็กกันเลยคะ ถ้าร่างกายเราแข็งแรงดี การเผาผลาญน้ำตาลก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อเราร่างกายเราเริ่มขับน้ำตาลออกมาไม่ได้ เมื่อนั้นเราก็เริ่มเดินเข้าสู่วงจรของโรคเบาหวานกันแล้วคะ
โรคเบาหวาน เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด จำเป็นต้องทานยาหรือต้องควบคุมอาหาร โดยเฉพาะปริมาณน้ำตาลและแป้งให้พอเหมาะกับสภาพร่างกายของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นจนเกินไป สมุนไพรจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยหันมารับประทาน เพื่อหวังว่าจะไม่ต้องพึ่งยาแผนปัจจุบันตลอดไป และสมุนไพรเป็นยาจากธรรมชาติ สารพิษตกค้างแทบไม่มีหรือถ้ามีคงน้อยกว่ายาแผนปัจจุบันอยู่มากแน่นอน
อบเชย หนึ่งในสมุนไพรที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถรักษาโรคเบาหวานได้ ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรนั้นเป็นส่วนของเปลือกต้นไม้ ที่ผ่านการตากแดดมาแล้ว โดยอบเชยที่มีคุณภาพดีต้องมีสีน้ำตาลอ่อนหรือสีสนิม มีความตรงและยาว 1 เมตร มีรสเผ็ด หวานชุ่ม มีกลิ่มหอม มีฤทธิ์ร้อน
อบเชย มีสารที่ชื่อ เมธิลไฮดรอกซี่ ซาลโคน โพลีเมอร์ (MHCP) เป็นสารที่มีคุณสมบัติและความสามารถในการทำงานคล้ายกับฮอร์โมนอินซูลิน ฮอร์โมนชนิดนี้ถูกสร้างจากตับอ่อน และเป็นตัวช่วยให้ร่างกายเผาผลาญน้ำตาลให้เป็นพลังงาน ทำให้ไม่มีน้ำตาลสะสมอยู่ภายในร่างกายของเรา สารในอบเชยจึงไปเพิ่มสามารถของการเผาผลาญพลังงานให้มากขึ้น ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดน้อยลง นอกจากนี้ยังช่วยลดการดื้ออินซูลินทำให้เซลล์ต่างๆนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้จนหมด และสารไฮดรอกซีซานโคน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่พบในอบเชย สามารถลดระดับอินซูลินในเลือดได้
สมุนไพรอบเชย ไม่ได้แต่เป็นการกล่าวอ้างถึงสรรพคุณในเรื่องการลดระดับน้ำตาล แต่มีการศึกษาและวิจัยมารับรอง อาทิเช่น พบว่าอาสาสมัครที่ได้รับน้ำสกัดจากอบเชย วันละ 500 มิลลิกรัม เป็นเวลา 12 สัปดาห์ จะมีระดับน้ำตาในเลือดและไขมันในร่างกายลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับอบเชย นอกจากนี้ วารสารต่างประเทศได้ลงผลการวิจัยอบเชยไว้ว่า อบเชยมีฤทธิ์ทำให้อาหารคงอยู่ในกระเพาะอาหารได้นานขึ้น (ปกติอาหารจะอยู่ในกระเพาะนาน 30นาที – 3 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับชนิดอาหาร) ส่งผลให้อาหารถูกลำเลียงไปยังลำไส้เล็กช้าลง จึงเป็นการชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดไปด้วย (น้ำตาลและอาหารต่างๆจะถูกย่อยสมบูรณ์และดูดซึมที่ลำไส้เล็ก) และเมื่อทำการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากทานอาหารที่ผสมอบเชยมีระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
การวิจัยในประเทศมาเลเซียพบว่า อบเชยช่วยลดระดัยน้ำตาลในเลือด โดยสารสกัดอบเชยสามารถเลียนแบบอินซูลินได้ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งเป็นชนิดที่ไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลสูงกว่าปกติ
การรับประทานอบเชยอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด รักษาเบาหวาน ที่มีความปลอดภัยสูง เราควรรับประทานอบเชย อย่างน้อยวันละ 1 กรัม ควบคู่ไปกับการวัดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดด้วย
นอกจากนี้อบเชยยังมีสรรพคุณช่วยลดน้ำหนักได้คะ เนื่องจากอบเชยจะไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี และช่วยลดการนำการดูดซึมของคาร์โบไฮเดรตและไขมัน เรียกว่าช่วยสกัดไม่ให้ร่างกายเอาคาร์โบไฮเดรตและไขมันไปใช้นั้นเอง
อบเชยจึงเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ปัจจุบันเราสามารถหาซื้ออบเชยผงบรรจุแคปซูลได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ก่อนซื้ออย่าลืมพิจารณาถึงความปลอดภัย ดูวันเดือนปีที่ผลิต-หมดอายุ เครื่องหมายรับรอง ก็จะได้รับประทานอบเชยที่มีคุณภาพ แต่เรื่องการควบคุมอาหารก็คงมีความจำเป็นเหมือนเดิมนะคะ ห้ามละเลยเป็นอันขาด
