เบียร์ มาจากใหน แยกเป็นอะไรบ้าง

0
2324

เบียร์ เป็นเมรัยหลาย ๆ รูปแบบที่ผ่านกระบวนการหมัก ผลิตภัณฑ์พวกธัญพืช ประวัติศาสตร์ของเบียร์นั้นมีมายาวนาน เบียร์เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอลชนิดแรกของโลก เริ่มผลิต 6,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยชนชาติ บาบิโลเนียน เบียร์เป็นที่รู้จักในสมัยอียิปต์โบราณและเมโสโปเตเมีย และมีหลักฐานย้อนไปยาวนานถึง 4,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยใช้ข้าวบาร์เลย์ เป็นวัตถุดิบ ในราว 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ทีการผสมพืชอีกหนึ่งชนิดเข้าไปคือ ฮอปส์ ทำให้มีกลิ่นหอม, รสชาติขม และ สามารถรักษาคุณภาพของเบียร์ให้เก็บได้นานขึ้น แต่เบียร์เหล่านี้แตกต่างจากเบียร์ในปัจจุบัน และเนื่องจากเครื่องปรุงและกรรมวิธีในการผลิตเบียร์แตกต่างกันไปตามสถานที่ ลักษณะของเบียร์ (ชนิดของเบียร์, รสชาติ, และสี) จึงมีความแตกต่างกันได้มาก

เบียร์

การแยกประเภทของเบียร์

การแบ่งประเภทของเบียร์นั้นจะแบ่งได้หลายวิธี แต่วิธีหลักๆที่ใช้คือแบ่งตามประเภทของยีสต์ที่ใช้ในการหมัก โดยจะแบ่งเป็น 3 ปรเภทหลักๆ คือ

  • ยีสต์หมักลอยผิว (top-fermenting yeast) คือ เชื้อยีสต์ที่จะลอยตัวอยู่ที่ผิวหน้าของเบียร์เมื่อเสร็จสิ้นการหมัก เบียร์ที่ได้ เช่น เอล (Ale), พอร์ทเทอร์ (Porter), เบียร์ขาว, ไวท์เบียร์, ไวซ์เบียร์ (White beer), อัลท์เบียร์ (Alt beer), เคิลช์ (Kölsch), สเตาท์ (Stout)
  • ยีสต์หมักนอนก้น (bottom-fermenting yeast) คือ เชื้อยีสต์ที่จะจมอยู่ที่ก้นภาชนะเมื่อเสร็จสิ้นการหมัก เบียร์ที่ได้ เช่น ลาเกอร์ (Lager), พิลเซ่นเบียร์ (Pilsen beer) เบียร์ดำ, ดาร์คเบียร์(dark beer), บ๊อคเบียร์ (Bock beer)
  • ยีสต์ธรรมชาติ เป็นการใช้เชื้อยีสต์ตามธรรมชาติ ไม่ได้ใช้เชื้อที่เพาะเลี้ยงขึ้นมา เบียร์ที่ได้ เช่น  ลัมบิค (Lambic)

การแบ่งประเภทเบียร์แบบอื่นๆ

1. เบียร์สด (Draught beer) หมายถึง เบียร์ที่ทำการเสิร์ฟจากถังเบียร์ โดยไม่ได้บรรจุลงขวด หรือ กระป๋อง

2. ไลท์เบียร์ (Light beer) หมายถึง เบียร์ที่มีแคลอรี่ และ แอลกอฮอล์ต่ำ มีสีอ่อน และ รสชาดที่จืดชืดกว่า โดยจะมีรสขมน้อย และ ไม่หลงเหลือรสชาติติดปากหลังการดื่ม

3. ไอซ์เบียร์ (Ice beer) หมายถึง เบียร์ที่หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการหมักแล้ว เบียร์จะถูกทำให้เย็นจนน้ำเริ่มแข็งตัวเป็นเกล็ด

Previous articleขนมหวาน มีประโยชน์กับโทษ อะไรบ้าง
Next articleวิธีรักษาฝ้า ให้หายขาดเห็นผลเร็วและแนะนำวิธีป้องกันการเกิดฝ้า